++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

เสนอให้ศูนย์ประสานงานเป็นจุดจำหน่ายข้าวสาร ช่วยสานความสัมพันธ์เครือข่ายพธม.ในแต่ละพื้นที่

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน

สุราษฎร์ธานี -พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี
เสนอให้ศูนย์ประสานงานทุกจังหวัด/อำเภอเป็นจุดจำหน่ายข้าวสารASTV
หวังสานความสัมพันธ์เครือข่ายพันธมิตรฯในแต่ละพื้นที่
เริ่มต้นตั้งชื่อ"ร้านเถ้าแก่ชุมชน"
เชื่อสามารถพัฒนาเป็นสหกรณ์ได้ในอนาคต

นายเกียรติศักดิ์ ชาครหัตถะการ
ประธานศูนย์ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสุราษฎร์ธานี
กล่าวว่า สำหรับช่องทางการจำหน่ายข้าวสารASTV
อยากให้ศูนย์ประสานงานของทุกจังหวัดและศูนย์ประสานงานทุกอำเภอเป็นสถานที่ใน
การกระจายสินค้าเช่นข้าวสารASTV
เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์กันในหมู่สมาชิกพันธมิตรฯในทุกมิติ
ทั้งด้านมวลชน ด้านค้าขาย และอื่นๆ

นอกจากจะมีการจำหน่ายข้าวสารแล้ว ก็ควรที่จะมีการสอบถามรายชื่อไป
เพื่อให้เกิดการติดต่อสอบถามและสามารถกระจายข่าวสารไปพร้อมกับการขายข้าว
ด้วย ซึ่งจะทำให้การกระจายข่าวสารของเครือข่ายพันธมิตรฯเกิดขึ้นได้อย่างทั่วถึง
และจะได้ผลดีมาก
โดยรายได้ก็จะหมุนเวียนเข้ามาช่วยการขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชนไปในตัว
ด้วย

สำหรับรูปแบบการดำเนินการจะเป็นลักษณะของการจัดตั้งร้านค้าชุมชน
ในเบื้องต้นจะใช้ชื่อร้านค้าโครงการเถ้าแก่ชุมชน และตามด้วยชื่อจังหวัด
หรือ อำเภอ หลังจากนั้นก็จะพัฒนาไปเป็นสหกรณ์ได้ในอนาคต

ขณะที่ยอดจำหน่ายข้าวสารASTV
ในพื้นที่สุราษฎร์ธานีขณะนี้มียอดขายจำนวนมาก โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งหมด
ณ วันที่ 25 มีนาคม 2552 จำหน่ายได้แล้วจำนวน 500 ถุง
ข้าวที่ดีที่สุดจะเป็นข้าวหอมมะลิ100% รองลงมาเป็นข้าวกล้องหอมมะลิ 100%
ส่วนข้าวหอมทิพย์ และข้าวขาว100% มียอดจำหน่ายน้อยลงตามลำดับ

ส่วนสินค้าอื่นที่นำมาจำหน่ายประกอบด้วยขนมของกวงเม้ง
ซึ่งเป็นสินค้าที่สนับสนุน ASTV มีสินค้า ทั้งหมด 5 รายการ
ประกอบด้วยเต่าห่ง (ถั่วตุ้บตั้บ) ถั่วตัด งาขาวตัด งาดำตัด และ คอเป็ด
มียอดขายต่อเดือนๆ ละ 100 ลัง นอกจากนั้นยังมีกาแฟอินโคมิก ที่ลงโฆษณาทาง
ASTV มียอดจำหน่ายเดือนละ 60ลัง

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า
ขณะนี้การจำหน่ายข้าวสารในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ฯได้มีการกระจายสินค้าออก
ไปตามศูนย์ประสานงานตามอำเภอต่างๆ แล้ว
ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าของกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯให้มาก
ขึ้น เช่น อำเภอท่าชนะ ได้มอบหมายให้ นายบุญสุข ขุนดำ การ์ดอาสา ที่
ลูกป่วยเป็นโรคลิ่มเลือด เป็นผู้จำหน่ายสินค้า
ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเครือข่ายให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
หลังจากเคยประสบปัญหาเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกที่มีสูง

ในส่วนของนายบุญสุข
ได้นำเงินที่ได้รับจากผู้บริจาคมารับสินค้าไปจำหน่าย
ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะต่อสู้และเป็นการแสดงให้พี่น้องบ้าน
ใกล้เรือนเคียงได้เข้าใจ
และรับรู้ถึงการช่วยเหลือของกลุ่มพี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศและทั่วโลกที่
มีต่อพี่น้องพันธมิตรฯด้วยกัน
นอกจากนั้นยังได้มีการกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เช่น อำเภอชัยบุรี
อำเภอนาสาร อำเภอพระแสง

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000036709

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น